วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

SICK CHAINSAWS: Holocaust Command



เป็นเรื่องที่คิดกี่ทีก็แปลกดี เพราะคอนเสิร์ตนี้ มันเกิดขึ้นในวันศุกร์ วันที่ผมต้องขึ้นเรียนตั้งแต่ 8 โมงครึ่งยันเที่ยงวัน! นับเป็นอะไรทีบ้าคลั่งอย่างมากที่เด็กบ้านนอกคนหนึ่งจะระเห็จจากการเลคเชอร์ ของมหา'ลัยในต่างจังหวัดมายังเมืองหลวง ระยะทางร่วมเกือบๆ 200 กม. เพียงเพื่อจะมาชมงานคอนเสิร์ตดนตรีอันเดอร์กราวนด์งานเดียว! แล้วก็กลับบ้านในวันเสาร์ถัดมา!! แต่ในเมื่อมันผ่านมาแล้ว จะไปนึกถึงนึกคิดอะไร มันก็ไปเปลี่ยนแปลงอดีตอะไรไม่ได้แล้ว เพราะงั้น ผมจะมาเล่าให้พวกคุณฟังการเดินทางอันบ้าระห่ำของผมเอง! (*ใครไม่อยากเรื่องราวช่วงที่ผมยังอยู่ตจว. ให้ข้ามย่อหน้า 2 ไปอ่านที่เหลือได้เลยนะครับ)

รุ่ง เช้าผมเดินทางออกจากบ้านพร้อมกับกระเป๋าเรียนและเป้เดินทางตามเวลารถโดยสาร (8.25) ไปถึงม.ก็ขึ้นห้องเรียนตามปกติ ศึกษาการเลคเชอร์ของวิชาสุนทรียภาพเพื่อชีวิต ว่าด้วยภาพประติมากรรมแบบต่างๆ และก็ต้องนั่งอื้ออึงไปด้วยเพลงจากศิลปินเก่า รวมแล้วก็ราวๆ 6-8 เพลง (ไม่ขอบอกว่าแนวใด!!) มันกัดกร่อนรูหูอย่างเสียอารมณ์ และยิ่งเป็นวันที่ต้องออกไปลุยงานคอนเสิร์ตแล้ว ยิ่งทำให้อยากจะเดินไปปิดเพลงจากเครื่องเล่นของอาจารย์ผู้สอนเสียให้เสร็จ จริงๆ พอออกจากห้งเรียน ก็รับทานอาหารกลางวันที่เตรียมมาจากบ้าน สลัดเสื้อนักศึกษาทิ้ง ยัดมันใส่กระเป๋าเรียน ส่งให้เพื่อนที่อยู่หอใกล้ๆม. และบึ่งไปยังท่ารถไปยังอนุสาวรีย์ของอ.เมืองทันที


ผมมา ถึงกทม.ก็ปาไปบ่าย 3 โมงกว่าๆแล้ว และก็เดินทางไปล่าไอเท็มที่ร้านของพี่รักษ์ 666 เพื่อเช็คดูสินค้าใหม่ๆ แน่นอน ผมได้ ITP มาหนึ่งเล่ม พร้อมทั้งได้เจอเมทัลเฮดรุ่นน้อง เลยนั่งคุยเรื่องไอเท็มที่จะนำมาให้วงเฮดไลน์อย่าง TOXIC HOLOCAUST วงแธรชเมทัลรุ่นใหม่ได้ลงอักขระกัน สักพักผมและน้องคนนี้ก็ติดสอยห้อยตามขบวนไปกับเมทัลเฮดรุ่นพี่คนหนึ่งเดิน ทางออกจากร้าน 666 ไปขึ้น BTS อนุสาวรีย์ และได้เจอรุ่นน้องอีก 2 คนระหว่างทาง พวกเรา 6 คนค่อนข้างเสียเวลากับการเดินทางไปยัง BTS อุดมสุขพอสมควร เพราะต่างคนต่างก็ไม่ค่อยเจนจัดกับการเดินทางสายนี้กันสักเท่าไหร่ แต่พอเราเดินทางมาถึง ก็เดินตรงลงมายังบริเวณลานสังหารได้สำเร็จ ที่ซึ่งผมได้เห็นการ "บูม" ต้อนรับ TOXIC HOLOCAUST เฮดไลน์ของบรรดาแธรชเชอร์เลือดเดือดอยู่ข้างนอก แน่นอน ผมได้บันทึกช็อตเด็ดที่เข้มขลังและตลกโปกฮานี้เป็นที่เรียบร้อย (ไม่แน่ใจว่าจะมีใครบ้าจี้เข้ามาดูมันสักกี่ Views แต่ไม่น่าผลาญเวลาในชีวิต พวกเขานัก เพราะมันสั้นแค่ 10 วินาที สั้นกว่าเพลงไกรน์คอร์หลายๆเพลงอีก ฮา) พอเดินต่อไป ก็เจอทีมงานจากนิตยสาร สังกัด และร้านค้านำไอเท็มมากองวาง (อย่างมีระเบียบ) รอให้มีคนมาอุดหนุน แต่เท่าที่ได้ดู ก็ยังมีคนมาไม่มากนัก (เนื่องจากงานเริ่ม 1 ทุ่มนี่นา) สักพักผมก็ไปหารุ่นน้องที่สนิทกันแทน และได้รับบัตร โปสเตอร์ และรูปของ Joel Grind หัวหอกแห่ง TOXIC HOLOCAUST พร้อมทั้งป้ายอาร์มซึ่งชาวอันเดอร์เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า "แพช" (Patch) ที่ผมได้ฝากเขาซื้อไว้มาด้วย โดยแพชของผมได้รีบการลงอาคม (เซ็นด้วยปากกาเมจิค) เป็นที่เรียบร้อยและ และเบื้องบนก็ยังคงมีการซาวนด์กัน ลูกค้าในโซนตึกทางเข้างานยังคงโหรงเหรง ผมเลยตัดวินใจออกไปซื้อข้าว(เย็น+ค่ำ)มาเตรียมไว้กินเพื่อชาร์จพลังงาน แต่ยิ่งนานก็ยิ่งแปลกใจ พวกเรารอจน 6 โมงซึ่งเป็นเวลาของการแจกลายเซ็น แต่กลับไม่มีวี่แววของ TOXIC HOLOCAUST แต่อย่างใด (ล่าสุดเห็นหายเข้าไปในซอยแถบทางเข้าสถานที่จัดงาน) แต่ผมคิดบวกในใจไว้แล้วว่า "ยังไงกูได้ลายเซ็นเขามาหน่อยนึงแล้ว แค่นี้รอไหวน่า" ผมเลิกคิดถึงช่วงนี้ไปและไปปักหลักรอจนทีมงานเปิดประตูเข้าสู่ลานสักหาร พอวางข้างของเสร็จไม่นาน Remains แธรชไทยโกอินเตอร์ก็เริ่มเข้ามาซาวนด์เช็ด (ด้วยอินโทรเพลง Troops of Doom ของ Sepultua) คนดูเริ่มโค้งตามเพลงตั้งแต่เพลงนี้เลยครับ แล้วอินโทรของ Kill the wimps ก็มาแบบไม่มีปี่ขลุ่ย คนดูเริ่มออกอาการทันตาเห็น เหล่าแธรชเชอร์บ้าพลังบางคนเริ่มซัดกันไปมาอยู่บ้าง บางส่วนก็ไปโยกสั่นเป็นเจ้าเข้าหน้าเวที บางส่วนตีวงกว้างทำให้ช่วง 2-3 วงแรกวงมอชพิตไม่เยอะเท่าที่ควร (เดาว่าคนไทยชอบเก็บแรงไว้ลุยวงแค่เฮดไลน์มากกว่าปล่อยของตั้งแต่เริ่ม) ว่ากันที่ตัววง  Remains ประกอบด้วย Ekkachai (ร้องนำ) Tossapol (กลอง) Sakchai (กีตาร์) Natthawut (เบส/ร้องเสิรม) และสมาชิกใหม่ล่าสุด Ray (กีตาร์ เรียกว่าเป็นสีสันของวงทีเดียว) พวกเขาเคยไปลุยงาย Carnage Fest ที่สิงค์โปร์มาแล้ว และกำลังจะได้ไปรบร่วมกับเหล่าซามูไรในงาน True Thrash Fest และวงรุ่นใหญ่อย่าง Sacrifice Assassin หรือรุ่นรองลงมาก็ Witchburnner ที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้าด้วย นับเป็นสิ่งที่ทำให้วงแธรชเมทัลไทยหลายวงต้องอิจฉาตาร้อนอย่างช่วยไม่ได้ ฝีไม้ลายมือของสมาชิกแต่ละคนก็ใช่ย่อย Ekkachai ทำวงหลายแนวและร้องได้ดีทุกแนวสไตล์ พอมาร้องแนวนี้ก็คำรามได้สะใจเหมือนกัน ท่วงท่าบนเวทีดูคึกคักกระฉับกระเฉงวิ่งไปมาแทบทั้งโชว์และคอยเอนเตอร์เทนให้ คนดูร้องเพลงตามด้วย Tossapol ที่ตีกลองในวงบรูทัลเดธ พอมาเล่นในวงนี้ก็สามารถปรับสไตล์การตีได้ดี Natthawut นอกจากเล่นเบสแล้วก็แหกปากช่วยร้องด้วยในบางคราว การสับริฟฟ์ของกีตาร์เป็นเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงให้เพลงมีพลังได้ดี บทบาทการโซโลดุจะตกไปอยู่ที่ Sakchai เป็นหลัก ส่วน Ray ช่วยโซโลด้วยเกือบทุกเพลง พวกเขามีทั้งเพลงเก่าและใหม่มาเล่น อ้อ! มีการคัฟเวอร์ A Lesson in Violence ของ Exodus ด้วย แน่นอนว่าพอเอ่ยชื่อขึ้นริฟฟ์คนดูก็ซดกันทันตาเห็นทีเดียว นับเป็นการเปิดม่านพิธีกรรมแธรชได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียวครับ

หลังจาก Remains ลงจากเวทีไป ผมก็วิ่งโร่ลงมาหาน้ำท่าดื่มแก้เหนื่อย กลับมาก็เจอ Goatchrist666 วอร์เมทัลรุ่นใหม่กำลังแผดเสียงผ่านไมค์อยู่ สมาชิกประกอบด้วย Sattaya (ร้องนำ/กีตาร์) Thaweepat (ลีดกีตาร์) Sutthinan (เบส) และ Tanasan (กลอง Nuclear Warfare) โชว์ของพวกเขาไม่มีการแท็คให้ได้เห็น บางคนยืนแช่นิ่งเหมือนถูกผีสะกด แต่บางส่วนก็สั่นกบาลให้กับบทเพลงที่ GC666 จัดออกมา Sattaya นอกจากเล่นกีตาร์และโยกหัวและก็ยังแผดเสียงแบบสุดคอหอยอีกด้วย Sutthinan โยกกระจายและกระตุกเบสอย่างลื่นไหล แม้อายุน้อยสุดในวงแต่ฝีมือน่าจับตามากครับ Thaweepat คอยโซโลกีตาร์ นานๆทีก็โชว์การแท็ปปิงรัวๆให้ฟังบ้าง Tanasan บลาสต์กลองแบบไม่กลัวหมดแรง ทั้งๆที่ตนก็ต้องไปเล่นให้กับ Nuclear Warfare ซึ่งเป็นวงหลักอีกวง หลังวงนี้เล่นจบผมก็เพิ่งมารู้ว่า Joel Grind มาอยู่ข้างๆเวทีแล้ว และก็เริ่มมีบรรดาแธรชเชอร์มาชักภาพกันแล้ว เลยรีบเข้าไปขอถ่ายรูปด้วยคน

เนื่อง จากสมาชิกวง Vault แธรชเมทัลอนาคตไกลจากมาเลย์เซียไม่สามารถมาร่วมเล่นได้ ทางผู้จัดจึงส่งไม้ให้กับวง Strike Out ที่ขึ้นเป็นวงที่ 3 ซึ่งดูเหมือนพวกเขาจะโดน Joel ขโมยซีนไปเลยในช่วงแรก แต่ครอสโอเวอร์หน้าใหม่วงนี้ก็มีเพื่อนๆมาเชียร์อยู่พอสมควร พวกเขาประเคนครอสโอเวอร์สุดอลหม่านและรวดเร็วใส่คนดูอย่างบ้าคลั่ง หลายคนที่ออกไปหาน้ำท่าดื่มพอกลับเข้ามาดูทำหน้าตกใจกับเพลงและแอคชันของ Strike Out นักร้อง มือกีตาร์ และมือเบสวิ่งพล่านไปมาอย่างไม่กลัวเหนื่อย และยังคงทำหน้าที่ของตนได้ดี คนเลยมามอชกันหน้าเวทีเยอะขึ้น มีหนหนึ่งที่นักร้องโพล่งถึงการแบ่งแยกของดนตรีขึ้นอย่างไม่แคร์หน้าอินทร์ หน้าพรหมที่ไหนเลย (คาคว่าหลายๆคนคงรู้สึกร้อนๆหนาวๆเหมือนกันครับ เจองี้เข้า) ทางวงไม่ลืมที่จะคัฟเวอร์เพลของ Suicidal Tendencies และ 2 เพลงแต่งใหม่ (ที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ) ให้ฟังด้วย แม้เป็นวงที่มีอิเมจเป็นแกะดำของงาน แต่คาดว่าหลายคนก็คงจะสะใจและเผลอปันใจให้กับ Strike Out ไปบ้างไม่มากก็น้อย

คราวนี้มีต่อมหกรรมแธรชกันด้วยแธรชเมทัลจากสิงค์ โปร์ Demonification เป็นวงที่หายหน้าหายตาไปนาน เพิ่งมารียูเนียน เมื่อ Fai Sall (กีตาร์/ร้องนำ) ลาออกจากการเล่นกีตาร์ให้ Ironfist พร้อมทั้งรวบพรรคพวก ได้แก่ J.Rage (กลอง เป็นสมาชิกจากยุคแรกของวง) และ Thoth Warsaw (เบส) มาปล่อยอัลบัมใหม่ในปี 2011 นี่เอง ไม่เพียงแค่นั้น ทางวงยังออกเล่นตามงานเมทัลในบ้านเกิดอยู่หลายงาน มาเมืองไทยก็จัดเต็มทันที สมาชิกแต่ละคนอิเมจเต็มสูบไปด้วยชุดหนังดำขลับ เสริมหมุดหนามอีกชั้น และทาตาดำขลับ แลดูโหดเหี้ยมขึ้นไปอีก (ในส่วนของ Fai จะมีทรงผมโมฮอว์คสีแดงที่ดูขัดๆตาไปบ้าง) ลีลาการแสดงแต่ละคนเต็มที่มาก Thoth กระตุกเบส บางทีก็หันมาแลบลิ้นปลิ้นให้คนดูบ้าง Fai ยามร้องจะยืนคอนโทรลกีตาร์ทรงตัว X และร้องอย่างมีสมาธิ แต่เขาก็โยกอย่างเมามันส์ในหลายช่วงด้วย เล่นไปได้สักพักก็เรียกให้ Ekkachai นักร้องวง Remains ขึ้นเวที เรียกเสียงเฮได้พอสมควร Demonification กับ Ekkachai เลยคัฟเวอร์เพลง Under the Guillotine ให้คนดูคลั่งกันอีกรอบ แล้วทางวงก็เล่นเพลงไปอีกราว 2-3 เพลงก็ลาเวที (ซึ่งส่วนตัวผมว่ามันดูน้อยๆไปนะ แต่ยังไงก็คุ้มค่ามากที่ได้ดูพวกเขาเล่น)

งทื่ 5 คือ Nuclear Warfare แธรชเมทัลแดนสยามที่สั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร สมาชิกได้แก่ Karttakorn (เบส/ร้องนำ), Thiti กับ Santi (กีตาร์) และ Tanasarn (กลอง) ก้าวขึ้นเวทีไปประจำตัวแหน่งของแต่ละคน ทางวงพูดคุยกับคนดูเล็กน้อย ก่อนจะส่ง Beerhammer แทร็คเด็ดจากอีพีล่าสุดออกมาให้ฟัง คนดูรุ่นไหนก็คลั่งครับเจอดอกนี้เข้าไป ผมเห็นเมทัลเฮดรุ่นน้าแขนเดี้ยงเข้าเฝือกยังมายืนโยกอยู่ข้างๆเวทีเลย นี่ไม่ต้องพูดถึงคนดูเวทีหรอกครับ อัดกันอย่างบ้าเลือดเลย ลีลาสมาชิกแต่ละคนลูกบ้าเพียบ เผลอๆก็แอบโดดลงมาเซิร์ฟใส่คนดูกันเกือบทุกตำแหน่งทีเดียว Karttakorn วิ่งไปมาอย่างคึกคะนองเมื่อมีเวลา Santi ครบเครื่องครับ วิ่งวนไปมา โยกกีตาร์ ยกขาไปมา Thiti ดูจะใส่อารมณ์เวลาเล่นกีตาร์พอสมควร แสดงสีหน้าไม่ซ้ำแบบทีเดียว ทางวงเล่นเพลงของตัวเองและก็มี Outbreak of Evil ของ Sodom มาคัฟเวอร์ด้วย ทีนี้แหละครับ ฝูงบินบอดี้เซิร์ฟเริ่มถี่แล้ว ผมเห็นมีเมทัลเฮดหญิงขึ้นไปองค์ลง เฮดแบงค์บนเวทีไม่ยั้ง เรียกเสียงเฮและฮาจากคนดูได้ไม่น้อยเลย ก็หวังว่าเราจะได้ฟังผลงานใหม่ของ NW ในเร็วๆนี้นะครับ

มาถึงวงเฮ ดไลน์ Toxic Holocaust แธรชเมทัลจากอเมริกา คงไม่ต้องพูดพร่ำอะไรมาก อีพีและเดโมเป็นกองพะเนิน อัลบัม 4 ชุด วันนี้มากัน 3 คน Joel กีตาร์/ ,Phil ร้อง เบส/ร้องเสริม และ Nikki กลอง ทางวงใช้เวลาไม่นานนักในการเช็คซาวนด์ดนตรีให้เข้าที่ เพลงฮิตและเพลงรองก็ถูกประเคนมาไม่ยั้ง คนดูตอบรับกันเต็มที่อย่างสมกับที่พวกเขารคอยมานาน พากันวิ่งวนเป็นวงกลมแล้วแท็คกัน ส่วนพลเซิร์ฟนั้นก็มากันไม่ขาดสายเช่นกัน ร่วงลงพื้นบ้างมีคนรับบ้าง และยังมีบางคนนึกพิเรนวิ่งขึ้นไปกระฉอกเบียร์ใส่พวกหน้าเวที ใจนึงผมก็ฮาแต่อีกใจก็รำคาญไม่น้อย ไปๆมาๆก็ปาไป 10 กว่าเพลงซะแล้ว แลเห็นท่าทีสมาชิกเริ่มอิดโรย แต่คนดูก็ยังไม่ยอมให้พวกเขาเลิกเล่นง่ายๆ เรียกชื่อวงอังกอร์กันอย่างดังกระหึ่มและพร้อมเพรียง จนทางวงกลับมาเล่นอีก 4 เพลง ปิดฉากการรอคอย วงแธรชเมทัลรุ่นใหม่วงนี้ไปอย่างงดงามและน่าประทับใจทีเดียว ล่าสุดผมก็ได้ยิน Phil มือเบสทางวงที่ได้คุยกับทีมงานและคนดูมาก่อนแล้ว พูดกับคนดูชาวต่างชาติหลังงานเลิกว่า พวกเขาจะกลับมาอีก แต่ เมื่อไหร่ล่ะ?

ที่ อยากติก็คือระบบเสียงที่ยังต้องแก้อีกเล็กน้อย เอาที่ชัดๆเลยนะครับ เวลาผมไปอยู่ใกล้ๆแอมป์จะได้ยินเสียงกระเดื่องกลองดังตั่บๆแบบแปลก และก็เป็นตลอดงาน อันนี้เป็นเพียงข้อติส่วนเดียวที่ผมมีครับ ส่วนมิตรภาพและความเป็นกันเองของบรรดาแธรชเชอร์นั้น ก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม ผมสังเกตเห็นว่า ทุกๆวง ไม่ว่าวงไทย หรือวงนอก ก็จะมีการยกขวดเบียร์ (ช้าง,สิงห์,ลีโอ) ขึ้นมาซดระหว่างเล่นกันด้วย ก็การันตีได้ดีว่า เบียร์ไทย ก็ไม่แพ้ชาติในโลก เช่นกัน!!